แห่แชร์ภาพ เปรียบเทียบฝุ่นภาคเหนือในอดีตกับปัจจุบัน
จากการรายงานข่าวฝุ่นภาคเหนือที่มีมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เฟซบุ๊ก “Drama-addict” โพสต์ภาพเปรียบเทียบฝุ่นภาคเหนือระหว่างช่วงเวลาในอดีตและช่วงเวลาปัจจุบันที่ได้รับจากลูกเพจมาเผยแพร่ให้ชมกัน โดยแต่ละภาพจะเห็นได้ว่าทัศนวิสัยของท้องฟ้ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้เว็บไซต์ IQAir ได้จัดอันดับให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีมลพิษแย่อันดับ 1 ของโลกถึง 2 วันติด (15-16 มี.ค.67) และเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 19 มี.ค.67 เชียงใหม่ก็กลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 อีกครั้ง
โดยวันที่ 18 มี.ค.67 เฟซบุ๊ก “Drama-addict” ได้โพสต์ภาพที่นำมาจากลูกเพจซึ่งเป็นภาพของอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และมีข้อความระบุว่า “ลูกเพจส่งมา ภาพจาก ฝาง เชียงใหม่ ภาพแรกปลายปีก่อน ภาพสอง สัปดาห์นี้”
และในวันเดียวกันนั้นเองทางเฟซบุ๊ก“Drama-addict” ก็ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบของสนามบินเชียงรายพร้อมระบุข้อความว่า “ลูกเพจส่งมา เทียบสนามบินเชียงราย วันที่ไม่มีฝุ่น กับวันที่ไม่ฝุ่น” ซึ่งเราจะเห็นความแตกต่างของทัศนวิสัยท้องฟ้าทั้งจากภาพอำเภอฝางและภาพจากสนามบินเชียงรายได้อย่างชัดเจน
และล่าสุด เว็บไซต์IQAirรายงานคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 19 มี.ค.67 เวลา 15.00 น. พบว่า จังหวัดเชียงใหม่กลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลกอีกครั้ง โดยมีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 187 AQI ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและทางเดินหายใจอย่างรุนแรง แนะนำประชาชนสวมหน้าอนามัยตลอดเวลา
โดยการจัดอันดับ 5 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ได้แก่
- เชียงใหม่ ประเทศไทย
- ลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน
- กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล
- ธากา ประเทศบังคลาเทศ
- ดาการ์ ประเทศเซเนกัล
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ระบบติดตามฝุ่นของ GISTDAรายงานสถานการณ์ฝุ่นของวันที่ 19 มี.ค.67 เมื่อเวลา 14.00 น. พบว่า 10 อันดับแรกที่มีค่าฝุ่นสูงสุดในไทยล้วนมาจากภาคเหนือทั้งสิ้น โดยมีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์อยู่ในระดับสีแดงส่งผลกระทบต่อสุขภาพและทางเดินหายใจ ซึ่งทั้ง 10 อันดับมีดังต่อไปนี้
- เชียงใหม่ 140.2 ไมโครกรัม
- เชียงราย 140.2 ไมโครกรัม
- แม่ฮ่องสอน 136.7 ไมโครกรัม
- ลำพูน 120.3 ไมโครกรัม
- น่าน 119.9 ไมโครกรัม
- พะเยา 119.6 ไมโครกรัม
- ลำปาง 116.5 ไมโครกรัม
- แพร่ 105.9 ไมโครกรัม
- ตาก 96.8 ไมโครกรัม
- อุตรดิตถ์ 90.2 ไมโครกรัม
จากภาพที่ถูกโพสต์ในเฟซบุ๊ก “Drama-addict” และการจัดอันดับของ IQAir และ GISTDAสะท้อนให้เห็นว่าปริมาณฝุ่นยังคงปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทยอย่างหนาแน่น แนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยอาการที่มักจะพบบ่อยจากการได้รับฝุ่นพิษคือ ตาแดง ผื่นขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีเยื่อบุจมูกอักเสบ รวมไปถึงเลือดกำเดาไหล เป็นอาการที่มักพบในเด็ก แนะนำให้ดูแลกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด หากเริ่มมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ทันที
รู้จัก “รยูจุนยอล” นักแสดงมากความสามารถ หนุ่มผู้ครองหัวใจสาวฮันโซฮี
ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก แฉ! เส้นทางการเงิน “นายพล ต.-ครอบครัว”โยงเว็บพนัน BNK
เริ่มแล้ว! พายุฤดูร้อนถล่มหนักคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! ฝนตก-ลูกเห็บตก บ้านเรือนเสียหายเพียบ